FinancialPlanner เป็นบุคคลสำคัญที่จะให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงิน
Text or Call 239-899-4556
FinancialPlanner เป็นบุคคลสำคัญที่จะให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงิน
Text or Call 239-899-4556
การขอสินเชื่อ (Loan) เพื่อซื้อบ้านในอเมริกามีหลากหลายประเภท โดยแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไปตามความต้องการและสถานการณ์ของผู้ขอสินเชื่อ ดังนี้:
การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้:
ITIN (Individual Taxpayer Identification Number) คือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีที่ออกโดยกรมสรรพากรของสหรัฐอเมริกา (IRS) สำหรับบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์ได้รับหมายเลขประกันสังคม (Social Security Number: SSN) แต่ต้องการทำธุรกรรมทางภาษีในสหรัฐอเมริกา เช่น การยื่นภาษี หรือการเปิดบัญชีธนาคาร
การยื่นภาษี (Tax Filing)
การขอคืนภาษี (Tax Refund)
เปิดบัญชีธนาคาร
การสร้างประวัติทางการเงิน (Credit History)
การสนับสนุนครอบครัว (Dependents Claim)
ช่วยสร้างความถูกต้องตามกฎหมาย
หากคุณทำธุรกิจหรือมีรายได้ในสหรัฐฯ และไม่มี SSN การมี ITIN จะช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความถูกต้องในการทำธุรกรรมต่าง ๆ
การจัดการมรดกผ่าน Living Trust มีข้อดีและแตกต่างจากการใช้ Will หลายประการ รวมถึงความแตกต่างระหว่าง Revocable และ Irrevocable Living Trust ดังนี้:
หลีกเลี่ยงกระบวนการ Probate (ศาลมรดก):
ความเป็นส่วนตัว:
จัดการในกรณีที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ (Incapacity):
การโอนทรัพย์สินได้อย่างยืดหยุ่น:
ลดค่าใช้จ่ายและเวลาสำหรับทายาท:
Revocable Living Trust (ยกเลิกหรือแก้ไขได้):
Irrevocable Living Trust (ไม่สามารถยกเลิกหรือแก้ไขได้):
สรุป
การซื้อบ้านในอเมริกาและการเตรียมตัวเพื่อให้ดาวน์น้อยที่สุดเป็นสิ่งที่ต้องวางแผนอย่างละเอียด นี่คือขั้นตอนที่คุณควรพิจารณา:
ถ้าคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมหรือต้องการทราบข้อมูลเฉพาะในรัฐที่คุณอาศัยอยู่ แจ้งมาได้เลยครับ!
การเลี้ยงดูลูกหนึ่งคนในสหรัฐอเมริกาจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมีค่าใช้จ่ายที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของสถาบันการศึกษา สถานที่ตั้ง และรูปแบบการใช้ชีวิตของครอบครัว
ค่าเล่าเรียน
ค่าครองชีพ
ค่าครองชีพขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งและรูปแบบการใช้ชีวิต โดยประมาณการดังนี้:
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
สรุป
เมื่อรวมค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงปริญญาตรี ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอาจอยู่ในช่วง $200,000 ถึง $500,000 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบและการพิจารณาทุนการศึกษาหรือความช่วยเหลือทางการเงินจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้
คู่มือการปรับปรุงเครดิตสกอร์สำหรับเจ้าของกิจการในอเมริกา
การมีเครดิตสกอร์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของกิจการในอเมริกา เนื่องจากช่วยให้การขอสินเชื่อหรือการทำธุรกรรมทางการเงินสะดวกและมีเงื่อนไขที่ดีขึ้น นี่คือคู่มือขั้นตอนการปรับปรุงเครดิตสกอร์:
เช็คสถานะเครดิตสกอร์ปัจจุบัน
ตรวจสอบข้อผิดพลาดในรายงานเครดิต
จัดลำดับความสำคัญของหนี้
ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อต่อรองเงื่อนไขการชำระ
ขั้นตอนที่ 3: จัดการวงเงินบัตรเครดิตอย่างเหมาะสม
ลดการใช้วงเงินบัตรเครดิต (Credit Utilization Ratio)
ขอเพิ่มวงเงินเครดิต (Credit Limit)
ขั้นตอนที่ 4: สร้างประวัติเครดิตที่ดี
ชำระเงินตรงเวลาเสมอ
เปิดบัญชีเครดิตใหม่อย่างระมัดระวัง
รักษาบัญชีเก่าให้เปิดอยู่
หลากหลายประเภทของเครดิต (Credit Mix)
จำกัดการสอบถามเครดิต (Hard Inquiry)
ขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาการเงิน
ใช้โปรแกรมสร้างเครดิต (Credit Builder Program)
Tax-Free Income
คือ สังเกตุไหมว่าภาษีจะมีแต่ขึ้นๆๆๆๆ แต่ไม่เคยลด วิธีรับมือของคนที่เขา Wealthy มั่งคั่งมากๆ เขาจะเอาเงินบางส่วนไปไว้ใน Tax Free account ซึ่งในอเมริกาจะมีแค่ 2 บัญชีนี้ที่ The Wealthy มักจะเอาเงินไปฝากไว้
1. Indexed Universal Life Insurance (IUL) : ได้ประกันชีวิตระหว่างเงินเติบโตด้วย in case ว่า die too soon คนข้างหลังไม่ลำบาก ไม่เป็นภาระคนข้างหลัง
2. Roth IRA : แต่ high income earner จะทำไม่ได้ เพราะ income เกิน แต่ถ้าใครมี Roth อีก solution หนึ่งคือ transfer ไปใส่ Annuity จะได้ lifetime income แบบการันตี ไม่ต้องกังวลว่าเงินก้อนนี้จะหมดก่อนที่เราจะตาย เงินจริงๆ หมดก็ไม่ต้องกลัว เพราะเราจะยังได้รับเงินจนกว่าจะเสียชีวิต income จะเพิ่มขึ้นทุกปีตราบเท่าที่มี return
หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่ millionaire มักทำก็คือ Max Fund ไปไว้ที่ Index Universal Life account เพราะสามารถใส่เงินได้เต็มที่ ไม่มีเพดาน
ILIT (อ่านว่า ไอลิท) - Irrevocable Life insurance Trust
ถ้ามรดกมีมากกว่า $13.61 million สำหรับ single หรือมากกว่า $27.22M for married couple. (IRS, 2024) จำนวนที่เกินมาจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี จำเป็นต้องทำ ILIT
ทำไมต้องมี? Death benefit from Life insurance เป็น income tax free แต่ไม่ได้เป็น estate tax free ? กล่าวคือ ถ้าคุณไม่จัดตั้ง ILIT คุณจะต้องจ่ายภาษีมรดก ซึ่ง Federal estate tax หรือ ภาษีมรดก คือ 40%
สมมุติ ถ้าคุณเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้วมี มรดก $15M, $13.61M จะได้รับการยกเว้นภาษีมรดก แต่ $1.39M จะต้องจ่ายภาษีมรดกที่อัตตราก้าวหน้า 40%
เมื่อทำ ILIT เงิน death benefit จากประกันชีวิตจะไม่ถูกดึงไปรวมกับมรดกที่คุณมี แต่มันจะไปอยู่ในทรัสให้เป็นคนจัดการแทน
ระบบประกันสุขภาพของสหรัฐอเมริกา
ประเภทของแผนประกันที่พบบ่อย ได้แก่
HMO, PPO, EPO, และ HDHP แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความต้องการของผู้เอาประกัน มาทำความเข้าใจกันครับ
1. HMO (Health Maintenance Organization)
ลักษณะ:
• ต้องใช้บริการในเครือข่ายของแพทย์และโรงพยาบาลที่กำหนดเท่านั้น
• ต้องเลือกแพทย์ประจำตัว (Primary Care Physician - PCP)
• หากต้องการพบแพทย์เฉพาะทาง ต้องได้รับการส่งตัวจาก PCP ก่อน
• ข้อดี:
• ค่าเบี้ยประกันต่ำ
• ค่ารักษาโดยรวมถูก (Co-pays และ Deductibles ต่ำ)
• ข้อเสีย:
• ขาดความยืดหยุ่น หากรักษานอกเครือข่าย คุณจะต้องจ่ายเองทั้งหมด
• เหมาะสำหรับ:
• คนที่ไม่ค่อยเจ็บป่วย ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และยินดีรักษาเฉพาะในเครือข่าย
2. PPO (Preferred Provider Organization)
ลักษณะ:
• สามารถเลือกพบแพทย์หรือโรงพยาบาลนอกเครือข่ายได้
• ไม่จำเป็นต้องเลือก PCP หรือขอการส่งตัวเพื่อพบแพทย์เฉพาะทาง
• ข้อดี:
• ยืดหยุ่นในการเลือกสถานพยาบาล
• ครอบคลุมบริการนอกเครือข่าย (แต่ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าในเครือข่าย)
• ข้อเสีย:
• เบี้ยประกันสูงกว่า HMO
• ค่าร่วมจ่าย (Co-pays) และ Deductibles สูงกว่า
• เหมาะสำหรับ:
• คนที่ต้องการความยืดหยุ่น หรือมีแพทย์เฉพาะทางที่อยู่นอกเครือข่าย
3. EPO (Exclusive Provider Organization)
ลักษณะ:
• ต้องใช้บริการเฉพาะในเครือข่าย (เหมือน HMO)
• ไม่จำเป็นต้องเลือก PCP หรือขอการส่งตัวเพื่อพบแพทย์เฉพาะทาง
• ข้อดี:
• เบี้ยประกันและค่ารักษาในเครือข่ายมักต่ำกว่า PPO
• ไม่ยุ่งยากเรื่องการขอการส่งตัว
• ข้อเสีย:
• หากรักษานอกเครือข่าย คุณต้องจ่ายทั้งหมด (ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน)
• เหมาะสำหรับ:
• คนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังต้องการความยืดหยุ่นมากกว่า HMO
4. HDHP (High-Deductible Health Plan)
ลักษณะ:
• มี Deductibles สูงมาก (เงินที่คุณต้องจ่ายเองก่อนที่ประกันจะเริ่มจ่าย)
• มักจับคู่กับบัญชี HSA (Health Savings Account) เพื่อใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลโดยไม่เสียภาษี
• ข้อดี:
• เบี้ยประกันต่ำที่สุด
• เหมาะสำหรับคนที่สุขภาพแข็งแรงและต้องการประหยัดเบี้ยประกัน
• ข้อเสีย:
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัวสูงในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษา
• ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวหรือเจ็บป่วยบ่อย
• เหมาะสำหรับ:
• คนที่สุขภาพดี และต้องการประหยัดเงินในระยะยาว
สรุปเปรียบเทียบสั้นๆ นะครับ
ประเภท เบี้ยประกัน ความยืดหยุ่นในการเลือกแพทย์/โรงพยาบาลเหมาะสำหรับ
HMO - จำกัดเฉพาะในเครือข่ายคนที่ต้องการประหยัด
PPO - มีความยืดหยุ่น พบแพทย์ในหรือนอกเครือข่ายได้
EPO - เฉพาะในเครือข่าย (แต่ไม่ต้องขอส่งตัว)คนที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายและได้ความสะดวก
HDHP - ขึ้นอยู่กับบัญชี HSA เหมาะกับคนที่สุขภาพแข็งแรง
Copyright © 2024 WealthPlanningPro - All Rights Reserved.
Powered by GoDaddy
We use cookies to analyze website traffic and optimize your website experience. By accepting our use of cookies, your data will be aggregated with all other user data.